การเจ็บป่วยสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงอายุล้วในแต่ละครั้งค่าใช้จ่ายย่อมสูงและในการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลก็ทำให้เราขาดรายได้ ประกันจึงเข้ามาเป็นเครื่องมือที่ช่วยแบ่งเบาภาระให้กับตัวเราเองและครอบครัว
เพื่อไม่ให้กระทบกับเงินที่เราตั้งใจเก็บหรือเงินของคนในครอบครัว แต่สำหรับเพื่อนๆที่ไม่ค่อยรู้จักประกันชีวิต คงเป็นเรื่องน่าปวดหัวว่าเราจะเริ่มซื้อประกันชีวิตแบบไหน แบบไหนที่ควรจะมี ซึ่งบทความในวันนี้จะมาเล่าให้เพื่อน ๆ ฟัง ดังนี้

ที่มารูปภาพ: www.oic.or.th
– ช่วงวัยเด็ก (ช่วงแรกเกิด-อายุ 20 ปี)
ถ้าเป็นการทำประกันในช่วงอายุนี้จะเน้นไปที่ประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุ เพราะในวัยเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 5 ปีร่างกายยังไม่มีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงพอเป็นวัยที่เจ็บป่วยได้ง่ายกว่าวัยอื่นๆซึ่งเบี้ยประกันของเด็กวัยนี้จะสูงตามสถิติการเจ็บป่วยของเด็กวัยแรกเกิดจนถึงอายุ 5 ปี แต่เมื่อผ่านช่วงนี้ไปแล้วเบี้ยประกันจะถูกปรับลดลง
– วัยเริ่มทำงาน (ช่วงอายุ 21-30 ปี)
ในวัยนี้เป็นช่วงวัยที่เริ่มทำงานซึ่งเป็นวัยที่เหมาะกับการวางแผนทางการเงินเพื่ออนาคตและจะมีประกันสุขภาพที่ททางบริษัททำให้กับพนักงานอย่างพวกเราแล้วยังเป็นวัยที่ต้องเริ่มจ่ายภาษีเพราะเราเป็นคนที่มีรายได้แล้วการจ่ายภาษีจึงต้องหาประกันที่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ ดังนั้นประกันที่เหมาะสมในช่วงวัยนี้ จะเป็นประกันชีวิตที่มีการจ่ายเบี้ยประกันตั้งแต่10ปีขึ้นไปและประออมทรัพย์ที่มีระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป
– วัยสร้างครอบครัวและมีบุตร ( 31-50 ปี)
เป็นวัยที่สร้างความมั่นคงให้กับครอบครัว เริ่มมีกาขยับขยายที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะหัวหน้าครอบครัวผู้ที่หารายได้ควรมีประกันที่คุ้มครองตลอดชีพเพื่อเอาไว้เป็นหลักประกันให้กับครอบครัวและควรเพิ่มเติมพวกประกันสุขภาพเข้าไปด้วย เกิดมีเหตุเจ็บป่วยต้องเข้าโรงพยาบาลใช้เงินรักษาอาจจะต้องรบกวนเงินเก็บของเราและคนในครอบครัวการทำประกันจะเป็นการปิดความเสี่ยงทางการที่เงินเราจะสูญเสียไป
และหากต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลรายได้ของเราก็จะหายไปด้วยการทำประกันที่มีการชดเชยรายได้ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดความเสียงในการสูญเสียรายได้หากต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล
– วัยก่อนเกษียณ (51 ปีขึ้นไป)
เป็นวัยที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นหลัก พวกค่ารักษาพยาบาลหรือรวมไปถึงพวกคุ้มครองโรคร้ายต่าง ๆ เพราะหากเราเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงเราต้องเอาเงินเก็บที่หาทั้งชีวิตมาใช้เพื่อรักษาตัวเอง
เมื่อเราอ่านบทความนี้จบเราพอจะมองเห็นความสำคัญของการมีประกันชีวิตและแยกได้ว่าการมีประแบบไหนเหมาะกับช่วงอายุไหนบ้าง แต่สิ่งหนึ่งโรคร้ายแรงคือภัยเงียบที่เราไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อหากเราประกันที่คุ้มครองเกี่ยวกับโรคร้ายแรงก็ทำให้เราอุ่นใจได้ว่าอย่างน้อยเราไม่ต้องสียเงินจำนวนมากในการรักษาตัวเองหากให้บรัทประกันชีวิตดูแลค่าใช้จ่ายตรงนี้
#เรื่องทั่วไป #เกร็ดความรู้รอบตัว #เทคนิคต่างๆ #สาระน่าสนใจ #ควรทำประกันอายุเท่าไหร่