หากย้อนไปเมื่อพันกว่าปีก่อนที่เราจะได้มีการตั้งรกรากที่เต็มไปด้วยความหลากหลายและมีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์มาอย่างทุกวันนี้ก็ต้องผ่านกาลเวลาแห่งการเกิดขึ้นและดับของยุคแห่งอิทธิพลในอาณาจักรต่าง ๆ ซึ่งหนึ่งในอาณาจักรที่มีอิทธิพลสูงก็คือ “อาณาจักรศรีวิชัย” ซึ่งมีความน่าสนใจไม่น้อย วันนี้เราจะมาอธิบายสาระน่ารู้ของอาณาจักรศรีวิชัยที่เคยเป็นอาณาจักรรุ่งเรืองขีดสุดทางภาคใต้ให้คุณได้ทำความเข้าใจกัน

– ที่ตั้งของอาณาจักรศรีวิชัย
อาณาจักรศรีวิชัย ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของดินแดนไทยเราซึ่งแต่ก่อนยังไม่มีชื่อเรียกประเทศ โดยอาณาจักรศรีวิชัยอยู่บริเวณแหลมมลายู โดยแต่เดิมนั้นศูนย์กลางอาณาจักรศรีวิชัยอยู่ที่เกาะชวาหรืออินโดนีเซียซึ่งเป็นทำเลเหมาะแก่การค้าขายติดต่อทางทะเลเป็นสำคัญ ก่อนที่จะได้ย้ายศูนย์กลางมาอยู่ที่เมืองไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ดินแดนทางตอนใต้จึงเป็นแถบที่มีอิทธิพลสำคัญของการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมจนเกิดการผสมผสานระหว่างอินเดียและมลายูอันเป็นรากฐานของวัฒนธรรมสืบต่อมาจนถึงปัจจุบันดังที่เราจะเห็นได้ว่าคนภาคใต้มักมีความเชื่อทางศาสนาเหมือนมาเลเซียและอินโดนีเซีย รวมถึงการแต่งกายที่ผู้หญิงโพกผ้าและผู้ชายใส่หมวกกะปิเยาะห์ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นวัฒนธรรมการแต่งกายที่ได้รับอิทธิพลมาจากอินเดีย

– ความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรศรีวิชัย
ในยุคนั้นเราอาจพูดได้ว่า “ทะเลเป็นเสมือนเส้นทางสายไหมของคนจากประเทศต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดวัฒนธรรม” ด้วยอาณาจักรศรีวิชัยมีการปกครองในลักษณะสหพันธรัฐ ครอบคลุมพื้นที่แถบทะเลฝั่งแหลมมลายูและเกาะสุมาตรา การเดินเรือจึงเป็นสิ่งสำคัญในการเข้ามาซึ่งอิทธิพลที่แผ่ขยายให้เกิดรากเหง้าที่ชัดเจน โดยเฉพาะตามเมืองไชยา เมืองนครศรีธรรมราช เมืองปาเล็มบัง และเมืองจัมบี เป็นต้น
ในอาณาจักรนี้จึงมีการสร้างชุมชนบ้านเรือนริมทะเลเพื่อความสะดวกในการซื้อ – ขายสินค้าจากต่างแดน คนบางส่วนในอาณาจักรศรีวิชัยก็เป็นชาวต่างชาติที่ส่วนใหญ่เป็นคนอินเดียที่อพยพเข้ามาทำให้อาณาจักรศรีวิชัยมีความเจริญรุ่งเรืองด้านการค้าขายแบบผูกขาดและผู้คนก็นับถือศาสนาพราหมณ์กับศาสนาพุทธนิกายมหายานอย่างเคร่งครัด แนวคิดฮินดูและการสร้างเทวสถานตามแบบอินเดียจึงเป็นศูนย์กลางจิตใจของใครหลายคน

– หลักฐานที่เกี่ยวข้องอาณาจักรศรีวิชัย
จากหลักฐานทางโบราณคดีมีการค้นพบเครื่องถ้วยโถและบันทึกทางประวัติศาสตร์ของอาณาจักรศรีวิชัยทำให้รู้ว่าอาณาจักรศรีวิชัยมีสินค้าสำคัญ คือ เครื่องเทศและเครื่องหอม เช่น กระวาน กานพลู การบูร มะพร้าว ไม้กฤษณา พริกไทยหมาก กำยาน พิมเสน อำพัน และเนื่องจากพื้นที่ทางภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นป่าและเต็มไปด้วยต้นไม้มากมายจึงมีการผลิตงาช้าง เขาสัตว์ หนังสัตว์ นอแรด น้ำผึ้ง และน้ำตาล และมีการเก็บทรัพยากรทางทะเลมาทำเป็นเครื่องประดับมากมาย เช่น ไข่มุก พลอย และปะการัง เป็นต้น ส่วนสินค้าที่รับมาจากต่างแดนหรืออินเดียก็จะเป็นพวกผ้าต่วน โลหะ และเหล้า
แม้อาณาจักรศรีวิชัยจะล่มสลายไปนานเป็นพันกว่าปีแล้วแต่วัฒนธรรมรากเหง้าก็ยังส่งต่อมาถึงลูกหลานชาวใต้และไม่อาจเปลี่ยนแปลงลงตามกาลเวลาได้ แม้จะไม่เด่นชัดเหมือนยุคที่อาณาจักรเคยเจริญรุ่งเรือง แต่ก็มีความกลมกลืนอยู่ในชีวิตประจำวันของทุกคน คนไทยเราปัจจุบันในภายภาคหน้าก็อาจมีวัฒนธรรมอื่นเข้ามาแต่เราก็ควรสืบต่อวัฒนธรรมที่เรามีเพื่อไม่ให้เขาลืมรากเหง้าของตัวเอง เพราะอย่างน้อยการได้นำเอาสิ่งที่มีในอดีตไปประยุกต์ให้เย้ากับความเปลี่ยนแปลงก็สามารถทำให้เห็นเอกลักษณ์ของเราได้ดังเดิม
รูปภาพประกอบ : Pixabay
#เรื่องทั่วไป #เกร็ดความรู้รอบตัว #เทคนิคต่างๆ #สาระน่าสนใจ #ประวัติอาณาจักรศรีวิชัย