หลายสิบปีก่อนมีภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับความรักในวัยเยาว์ที่วัยรุ่นไทยในสมัยนั้นชอบกันมากเกิดความประทับใจและซาบซึ้งกับภาพยนตร์เรื่องเมโลดี้ (Melody) หรือในชื่อภาษาไทยว่าเมโลดี้ที่รักเป็นภาพยนตร์ที่สร้างในปี 1971 โดยอยู่ในบรรยากาศและสังคมของกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

เรื่องราวของเด็กชายและเด็กหญิงที่มีความรักในวัยเยาว์หรือความรักที่ไร้เดียงสา ซึ่งเป็นมุมมองด้านความรักของเด็กที่เริ่มจะโตเป็นวัยรุ่นระยะแรก จึงมีความแก่นและซนของเด็กสมัยนั้นมาเป็นองค์ประกอบร่วมในภาพยนตร์ซึ่งสร้างความปวดหัวให้กับบรรดาผู้ใหญ่ทั้งคุณครูและผู้ปกครองของพวกเขาอย่างมาก
เด็กชายแดเนียล ลาติเมอร์ วัย 11 ปี อยู่ในครอบครัวที่มีพ่อแม่ลูกที่อยู่ในสังคมที่มีฐานะดีของอังกฤษ แดเนียลมีเพื่อนสนิทชื่อเด็กชายทอม ออร์นชอว์ เป็นเด็กกำพร้าที่อาศัยอยู่กับปู่ของตัวเอง ออร์นชอว์เป็นเด็กหัวโจกประจำชั้นซึ่งมักจะนำเพื่อนเล่นสนุกแบบห่ามอยู่เสมอที่โรงเรียนประถมในลอนดอน จุดเริ่มต้นของความรักเกิดขึ้นในวันหนึ่งเมื่อแดเนียลได้พบกับเด็กหญิงเมโลดี้ เพอร์กิ้น ที่ห้องซ้อมเต้นรำของโรงเรียน แดเนียลเห็นเมโลดี้กำลังซ้อมเต้นบัลเลย์อยู่และประทับใจในความน่ารักของเธอตั้งแต่วันนั้น เมโลดี้เติบโตมาจากครอบครัวที่มีพ่อกับแม่และย่าของเธออยู่ด้วยกัน โดยที่พอของเธอชอบดื่มเหล้าและใช้เวลาอยู่ในผับทั้งวัน

เมื่อแดเนียลพบกับเมโลดี้อีกครั้งในงานของโรงเรียน ทั้งคู่สนิทกันโดยทันที และเริ่มออกไปเที่ยวกันแบบเด็กๆ วันหนึ่งทั้งสองตัดสินใจหนีไปเที่ยวทะเลกันสองคน เพื่อนร่วมชั้นเรียนต่างกล่าวขานและล้อเลียนทั้งคู่ แดเนียลและเมโลดี้เข้าใจตัวเองดีว่าทั้งสองมีความรักต่อกัน และตั้งใจที่จะแต่งงานกัน พร้อมกับประกาศให้คนอื่นทราบถึงความตั้งใจจะใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกัน ทั้งสองจึงนำเรื่องนี้ไปบอกกับครอบครัวและครูใหญ่ ซึ่งบรรดาผู้ใหญ่เห็นว่าเรื่องความตั้งใจแต่งงานกันของทั้งคู่นี้เป็นเรื่องเหลวไหล
บ่ายวันหนึ่งนักเรียนทั้งชั้นหนีเรียนไปรวมกันอยู่ที่โบสถ์ร้างข้างสถานีรถไฟ เพื่อเป็นสักขีพยานความรักและพิธีแต่งงานระหว่างแดเนียลกับเมโลดี้ โดยการจัดการของออร์นชอว์ จนเมื่อบรรดาครูไปพบเหตุการณ์นี้เข้า เด็กๆถึงกับก่อเหตุปั่นป่วนต่างๆให้ครูต้องปวดหัวไปตามๆกัน
ภาพยนตร์เรื่องนี้มีจุดประสงค์ที่จะสื่อให้เห็นว่าเด็กก็สามารถมีความรักที่บริสุทธิ์ต่อกันได้แม้ว่าจะยังไม่เข้าใจความหมายของการมีครอบครัวหรือการแต่งงาน แต่ก็อยากจะให้คนรอบข้างยอมรับในความตั้งใจจนดูเหมือนจะแก่แดดเกินกว่าวัยของตัวเอง และภาพยนตร์เรื่องนี้ยังสะท้อนภาพของช่องว่างของความเข้าใจกันระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่จนนำไปสู่การต่อต้านกฎระเบียบและสร้างความวุ่นวายใจให้กับบรรดาผู้ใหญ่ทั้งหลาย

ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้เพลงประกอบของคณะเดอะบีจีส์ (The Bee Gees) หลายเพลง เป็นภาพยนตร์ปี 1971 กำกับการแสดงโดยแวริส ฮุสเซน (Waris Hussein) อำนวยการสร้างโดยเดวิด พัทนัม (David Puttnam) เขียนบทโดยอลัน ปาร์คเกอร์ (Alan Parker) ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำในกรุงลอนดอนเกือบตลอดทั้งเรื่อง นำแสดงโดยมาร์ค เลสเตอร์ (Mark Lester) เป็น แดเนียล เทรซี่ย์ ไฮด์ (Tracy Hyde) เป็นเมโลดี้ และแจ๊ค ไวล์ด (Jack Wild) เป็นออร์นชอว์
เมื่อมีโอกาสได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้อีกครั้งความซาบซึ้งและรู้สึกมีส่วนร่วมแบบสมัยเป็นวัยรุ่นแทบไม่เหลืออยู่ แต่มีความรู้สึกดีที่ว่าความรักยังคงเป็นสิ่งที่สวยงามเสมอโดยเฉพาะความรักระหว่างเด็กชายกับเด็กหญิงที่บริสุทธิ์สดใสและไม่มีเรื่องของความต้องการทางเพศเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
เครดิตภาพ Below the Radar
#เรื่องทั่วไป #เกร็ดความรู้รอบตัว #เทคนิคต่างๆ #สาระน่าสนใจ #ความรักในวัยเยาว์