เมื่อคณะราษฎรยึดอำนาจจากสถาบันพระมหากษัตริย์ปี 2475 ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญฉบับถาวรครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2475 คณะราษฎรได้เลือกพระยามโนปกรณ์นิติธาดาขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกในระบอบประชาธิปไตย

วันที่ 20 มิถุนายน 2476 พระยาพหลพลพยุหเสนาทำการยึดอำนาจและแต่งตั้งตนเองเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 2 ต่อมามีการเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรขึ้นเป็นครั้งแรก ในระบอบประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2476 หลวงประดิษฐ์มนูธรรมยกร่างกฎหมายหลายฉบับเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 ไม่ทรงเห็นด้วยกับกฎหมายหลายฉบับของรัฐบาล และทรงสละราชสมบัติเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2477
รัฐบาลได้อัญเชิญพระองค์เจ้าอานันทมหิดลพระโอรสในกรมหลวงสงขลานครินทร์ ขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 8 แห่งราชวงศ์จักรี ประชาชนเริ่มรู้สึกว่าประเทศชาติอยู่ในบรรยากาศของประชาธิปไตยมากขึ้น

วันที่ 16 ธันวาคม 2481 รัฐบาลแพ้การโหวตในสภาจึงยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ ภายหลังการเลือกตั้ง สภาผู้แทนราษฎรลงมติให้ พ.อ.หลวงพิบูลสงคราม ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี แม้ว่าระบอบประชาธิปไตยจะเพิ่งเริ่มต้นขึ้นได้ไม่นานและมีกระแสต่อต้านเกิดขึ้นเป็นระยะ แต่ก็เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ประชาชนได้มีส่วนในการเลือกตั้งและผู้มีอำนาจสูงสุดในบ้านเมืองคือนายกรัฐมนตรีก็คือสามัญชน
วันที่ 1 สิงหาคม 2487 จอมพลป.พิบูลสงครามลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นายปรีดี พนมยงค์ในฐานะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์แต่งตั้งนายควง อภัยวงศ์เป็นนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญในระบอบประชาธิปไตยในขณะนั้น ต่อมานายควง อภัยวงศ์ นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีลาออก เพื่อเปิดโอกาสให้มีการสรรหาผู้เหมาะสมมาเป็นนายกรัฐมนตรีและเจรจากับฝ่ายสัมพันธมิตรภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ต่อไป นายปรีดี พนมยงค์ เห็นสมควรให้นายทวี บุญเกตุเป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อดูแลปัญหาเร่งด่วนก่อน ต่อมานายปรีดี พนมยงค์จึงเสนอหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมชขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2488
วันที่ 15 ตุลาคม 2488 รัฐบาลยุบสภาเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ตามระบอบประชาธิปไตย วันที่ 31 มกราคม 2489 หลังการเลือกตั้ง สภาผู้แทนราษฏรได้เสนอ นายควง อภัยวงศ์ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง หลังจากที่นายปรีดี พนมยงค์ปฏิเสธไม่ยอมเข้ารับตำแหน่ง โดยได้มีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ซึ่งอนุญาตให้มีพรรคการเมืองเกิดขึ้น

จนกระทั่งวันที่ 24 มีนาคม 2489 รัฐบาลแพ้โหวตร่างพระราชบัญญัติในสภา นายควง อภัยวงศ์จึงนำคณะรัฐมนตรีทั้งคณะลาออก ประธานสภาผู้แทนราษฎรขอร้องให้นายปรีดี พนมยงค์เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ครั้งนี้นายปรีดียอมรับตำแหน่ง โดยมีพรรคประชาธิปัตย์ของ นายควง อภัยวงศ์เป็นฝ่ายค้าน พรรคประชาธิปัตย์โจมตีนายปรีดี พนมยงค์ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการลอบปลงพระชนม์รัชกาลที่ 8 และกระพือข่าวออกไป เมื่อไม่สามารถระงับข่าวอกุศลได้นายปรีดี พนมยงค์จึงลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2489
พลเรือตรีถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ หัวหน้าพรรคแนวรัฐธรรมนูญได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป แต่ในที่สุดระบอบประชาธิปไตยของประเทศก็ต้องสะดุดลงเมื่อเกิดรัฐประหารเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2490 โดยการนำของพลโทผิน ชุนหะวัน โดยอ้างว่าประชาชนเดือดร้อน ข้าวยากหมากแพง ประเทศทรุดโทรม คณะรัฐประหารได้ดึงนายควง อภัยวงศ์กลับมารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง
ตั้งแต่การปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อปี 2475 ประเทศไทยยังไม่เคยมีประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ เนื่องจากมีการแย่งอำนาจกันเองของบุคคลในคณะราษฏร ตลอดจนการเล่นการเมืองของนักการเมืองเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจรัฐ แต่ในที่สุดก็จบลงด้วยการยึดอำนาจการปกครองของฝ่ายเผด็จการ
เครดิตภาพ NEW18, สถาบันปรีดี พนมยงค์, ไทยโพสต์
#เรื่องทั่วไป #เกร็ดความรู้รอบตัว #เทคนิคต่างๆ #สาระน่าสนใจ #ประชาธิปไตยไทยปี2475