วิ่งทุกวันเดี๋ยวก็วิ่งเร็วเอง ถ้าหยุดพักไปพอกลับมาวิ่ง วิ่งเราจะวิ่งช้าลงทันทีมีใครเคยได้ยินประโยคนี้ หรือตัวคุณเองเป็นคนพูด ?
เป็นประโยคที่ผมได้ยินบ่อยครั้ง ในวงสนทนาว่าถ้าเราอยากจะพัฒนา เราต้องซ้อมทุกวันยิ่งซ้อมเยอะยิ่งได้เยอะ ยิ่งซ้อมมากยิ่งได้มาก ซ้อมทุกวันเลยแล้วกัน อ้าว .. ไม่เห็นจะวิ่งเร็วขึ้นเลยอะ แถมเจ็บตัวอีกต่างหาก รู้สึกเพลียมากในแต่ละวัน บางวันตื่นมาแทบไม่อยากจะวิ่งเลย มันไม่รู้สึกสนุกเหมือนวันแรกๆแล้ว
การออกกำลังกาย คือการทำร้ายร่างกาย ให้เกิดความเสียหายเล็กน้อยตามจุดประสงค์ของการฝึกนั้นๆ การพักฟื้นร่างกาย คือการทำให้ร่างกายปรับตัว ฟื้นคืนกลับมาที่แข็งแรงกว่าเดิมเล็กน้อยเรียกว่า “ Supercompensation” และเรากลับไปฝึกซ้อมใหม่ ร่างกายก็จะเข้าวงจรนี้อีกครั้ง
การเปลี่ยนแปลงที่ให้ได้ชัดถึงมักใช้ช่วงาระยะเวลา 8 – 12 สัปดาห์ เนื่องจากเป็นช่วงที่เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน เมื่อคุมปัจจัยได้ดีในขณะที่ร่างกายเกิดความเสียหาย ถ้าหากมีการซ้อมแบบไม่มีวันพัก หรือมีวันพักแต่ไม่เพียงพอกับร่างกาย

ร่างกายก็จะเพลียล้าจนมากเกินไป เบื่อไม่อยากวิ่ง เป็นไข้ เป็นหวัด อารมณ์แปรปรวน ( ขี้เหวี่ยงนี่คนละเรื่องนะ )ทำแบบนี้ในระยะยาว ร่างกายจะไม่เกิดการพัฒนาที่ดี หรืออาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยวิ่งไม่เร็ว ไม่วิ่งนาน เหนื่อยง่าย กล้ามเนื้อไม่พัฒนา ซ้อมเหมือนย่ำอยู่กับที่
ถ้าหากใครเป็นแบบนี้อยู่ลองจัดสรร ตารางการฝึกซ้อมของคุณใหม่อีกครั้งลองตรวจสอบวันพักและวันซ้อมว่าเพียงพอและสอดคล้องกับร่างกายตนเองหรือไม่ซ้อม 7 วันก็ไม่ผิด ถ้าฟื้นตัวและพัฒนาได้ซ้อม 6 วันก็ไม่ผิิด ซ้อมวันละ 2 รอบก็ไม่ผิด ถ้าทุกอย่างทำแล้วมันแต่ดีกับดี ขึ้นไป
ร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน จงเรียนรู้และปรับใช้ให้เป็น ถ้าพักเยอะเกินไปก็ถดถอยเช่นกันเรียกว่า Detraining หรือ ภาวะกลับคืน
#ออกกำลัง #สุขภาพ #สุขภาพดี #ดุแลสุขภาพ #ผิวสวย #ฝากขั้นต่ำ 300