เชื่อว่าหลายคนรู้จักงาน Pride month LGBTQ+ เป็นอย่างดี ด้วยเป็นกิจกรรมที่สำคัญเป็นอย่างมากของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งในหลาย ๆ ประเทศจากทั่วทุกมุมโลก จะจัดขึ้นในเดือนมิถุนายนของทุกปี เพื่อแสดงออกถึงความเท่าเทียม รวมถึงเรียกร้องสิทธิของตัวเอง

และประเทศไทยได้จัดขึ้นเป็นครั้งแรกภายใต้ชื่อ BANGKOK NARUEMIT PRIDE 2022 ในงานนี้นอกจากจะมีขบวนพาเหรดที่น่าตื่นตาตื่นใจทั้งคนไทยและต่างชาติแล้วยังมีกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมายด้วย มาดูกันว่าทำไมเดือนนี้ถึงมีความพิเศษที่กลุ่มรักร่วมเพศต้องมาแสดงจุดยืน หากพร้อมแล้วมาเปิดใจ ยอมรับ ว่าไม่ว่าใครก็คือมนุษย์มีสิทธิ เสรีภาพ เหมือนกันทุกคนไปกันเลย
– ประวัติ Pride month

Pride month LGBTQ+ หรือ เดือนแห่งความภาคภูมิใจ ของกลุ่มผู้คนที่มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งพวกเขาจะรวมตัวกันเพื่อจัดกิจกรรมสดุดี และระลึกถึงเหตุการณ์จลาจลสโตนวอลล์ ที่เกิดขึ้นในช่วงเช้าของวันที่ 28 มิถุนายน ปี ค.ศ. 1969 ในบาร์ชื่อสโตนวอลล์ อินน์ ในเขตเมืองแมนฮัตตัน ของนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งในสมัยนั้นมีการจับกุมและใช้ความรุนแรงเป็นอย่างมากจากฝีมือเจ้าหน้าที่ตำรวจกับดกลุ่มคนรักร่วมเพศ
ในเหตุการณ์ครั้งนั้นได้มีการปะทะกันอย่างหนักกินเวลาหลายวัน นับได้ว่าเป็นบริบททางสังคมที่ผู้คนที่มีความหลากหลายทางเพศนั้นยังไม่เป็นที่ยอมรับมากเท่าที่ควรจากคนทั่วไป เช่น การแต่งกายไม่ตรงกับเพศสภาพ รักเพศเดียวกัน รวมถึงกิริยาที่บ่งบอกได้ว่าไม่ใช่เพศของตัวเอง เป็นต้น จนถูกมองเป็นตัวประหลาด คนไม่ดีราวกับว่าพวกเขาคือผู้ก่อการร้าย ไร้ซึ่งสิทธิ เสรีภาพ ไม่มีการเคารพ ไม่มีตัวตน ทั้งยังถูกกดขี่มากมายจนเป็นตราบาปไปตลอดชีวิต ไม่เพียงเท่านี้ยังอาจถูกจับกุมโดยตำรวจหากเปิดเผยตัวตนในพื้นที่สาธารณะด้วย
ย้อนมาที่บาร์สโตนวอลล์ อินน์ เป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากกลุ่มเพศทางเลือก เนื่องจากเป็นที่เดียวที่พวกเขาสามารถเผยตัวตนที่แท้จริงได้ ที่สำคัญยังซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาดื่มได้ โดยในสมัยนั้นห้ามจำหน่ายให้กลุ่มคนรักร่วมเพศ แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกค้นที่นี่ด้วยความรุนแรงเป็นอย่างมาก จึงกลายเป็นจุดแตกหักครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ ในการต่อต้านเจ้าหน้าที่รัฐ โดยมีการต่อสู้กันยืดเยื้อยาวนานกว่า 5 วัน เป็นเสมือนจุดเริ่มต้นที่กลุ่ม LGBTQ+ ต้องออกมายืนหยัด และเรียกร้องให้ยุติการกระทำเหล่านี้ รวมถึงเรียกร้องสิทธิ-เสรีภาพให้เกิดความเท่าเทียมไม่ว่าจะเป็นใครหรือกลุ่มใดก็ตามในฐานะมนุษย์คนหนึ่งที่เกิดมาบนโลกใบนี้
จากนั้นเพียง 1 ปี หรือปี ค.ศ. 1970 ได้เริ่มมีขบวนพาเหรดของหนุ่มสาวชาว LGBTQ+ เริ่มต้นที่บาร์สโตนวอลล์ อินน์ ไปจนถึงเซ็นทรัลพาร์ก และเรียกงานในวันนี้ว่า Christopher Street Liberation Day พร้อมกับคำพูด Say it loud, Gay is Proud ก่อนที่จะกลายอีกวันที่ผู้คนต้องจดจำและจารึกไว้ถึงการเรียกร้องของกลุ่มเพศทางเลือกมาจนถึงทุกวันนี้

– ความหมายของสีรุ้งที่ใช้ในกิจกรรม
สัญลักษณ์ที่สำคัญในกิจกรรม Pride month LGBTQ+ คือธงสีรุ้ง ออกแบบโดยนักสิทธิและศิลปินชื่อเสียงโด่งดัง กิลเบิร์ต เบเกอร์ ซึ่งเขาเป็นเพื่อนสนิทของฮาร์วีย์ มิลค์ นักสิทธิเพื่อกลุ่มเพศทางเลือกในยุค ปี ค.ศ. 1960 โดยพวกเขาสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมาในฐานะนักสิทธิ ผ่านงานศิลปะต่าง ๆ มากมาย และในปี ค.ศ. 1978 กิลเบิร์ตได้ออกแบบธงหลากสีไว้ เพื่อสื่อสารให้คนทั้งโลกรู้ว่า พวกเขาได้ประกาศอิสรภาพ มีอาณาจักรเป็นของตัวเอง รวมถึงกลุ่มคนผู้มีความหลากหลายทางเพศมีความสามัคคี แน่นแฟ้น เป็นหนึ่งเดียว
ซึ่งที่ผ่านมาในอดีตสายรุ่งมีทั้งหมด 8 ปี แต่ในปีต่อ ๆ มาสีชมพูขาดตลาดและมีราคาที่สูงมาก จึงทำให้หาซื้อได้ยากในหลายพื้นที่ กิลเบิร์ตจึงปรับให้เหลือเพียง 6 สี และใช้กันอย่างแพร่หลายมาจนปัจจุบัน
จะเห็นได้ว่า Pride month LGBTO+ เป็นเดือนที่มีความพิเศษ ของกลุ่มคนรักร่วมเพศที่ต้องการมีสิทธิ เสรีภาพ เฉกเช่นเดียวกันกับผู้คนทั่วไป การถูกตีตราว่าพวกเขามีความประหลาด ไม่เหมือนคนอื่น กำลังจะหมดไป เพราะในปัจจุบันผู้คนทั่วโลกต่างยอมรับในความหลากหลาย และอยู่ร่วมกันในสังคมในฐานะมนุษย์คนหนึ่งอย่างเท่าเทียม และมีความปกติสุขอย่างแน่นอน
เครดิตภาพ : pinotspalette.com / digital.abcaudio.com / abcnews.go.com
YouTube : https://www.youtube.com/watch?v=0AaaZZgBjK4 Pride Month มาจากไหน? ทำไมเดือนนี้ต้องสีรุ้ง?
#เรื่องทั่วไป #เกร็ดความรู้ทั่วไป #เกร็ดความรู้รอบตัว #สาระน่าสนใจ #PridemonthLGBTQ