อากาศของประเทศไทยนั้น แม้กล่าวได้ว่าจะมีฤดูวนเวียนเป็นหลักถึงสามฤดูด้วยกัน แต่ด้วยสภาพการณ์หรือความเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติต่าง ๆ ส่งผลให้สภาพอากาศภายในบ้านเรามีความแปรปรวนอยู่พอสมควร ฤดูร้อนกลายเป็นฤดูที่อยู่คู่กับสภาพอากาศของคนไทยมากที่สุด อากาศที่ร้อนยาวนานในประเทศไทยนั้น นอกจากจะส่งผลต่อผู้คนในเรื่องต่าง ๆ แล้ว บ้านเองก็เป็นสถานที่ที่ได้รับผลกระทบกับสภาพอากาศแบบฤดูร้อนของประเทศไทยเช่นกัน วันนี้เราเลยมาสาระความรู้ เกร็ดความรู้รอบตัว เรื่องบ้านมาแนะนำกัน
ประเทศไทยนั้นเป็นประเทศในเขตร้อนชื้น ความร้อนจากรังสียูวีของดวงอาทิตย์บวกกับความชื้นที่มีอยู่ในอากาศล้วนส่งผลกระทบต่อบ้านให้เกิดความเสื่อมโทรมได้ง่ายมากขึ้น ยิ่งบ้านสมัยนี้ล้วนมีองค์ประกอบเป็นปูนหรือเหล็กเป็นหลัก ซึ่งแตกต่างจากบ้านในสมัยก่อนที่ใช้วัสดุเป็นไม้ซึ่งมีความโปร่งและอากาศสามารถถ่ายเทได้ แต่บ้านปูนในปัจจุบันนั้น นอกจากจะระบายความร้อนที่ได้รับจากสภาพอากาศได้ไม่ค่อยจะดีนักแล้ว บ้านปูนยังสะสมความชื้นซึ่งส่งผลให้บ้านเสื่อมโทรมถึงภายในได้อย่างรวดเร็ว

หน้าต่างและประตูเคยเป็นองค์ประกอบของบ้านที่ช่วยถ่ายเทความร้อนและความชื้นที่สำคัญที่สุด แต่ด้วยรูปทรงดีไซน์ของบ้านในปัจจุบัน เราเลือกใช้วัสดุจำพวกบานเลื่อน กระจก มาปิดกั้นทางผ่านของอากาศที่หมุนเวียนภายในบ้าน เมื่อมีรังสีความร้อนจากดวงอาทิตย์ซึ่งนำพาความชื้นจากในอากาศเข้ามา
สะสมภายในเนื้อปูน ความแตกร้าว ผุกร่อน และเชื้อราสะสมแม้ไม่ได้มีน้ำท่วมขัง และสาเหตุความเสื่อมโทรมอื่น ๆ ของบ้านก็จะตามมาในไม่ช้าทันที
บ้านก็เหมือนกับมนุษย์ที่ต้องมีอากาศหายใจและถ่ายเทความอับชื้นต่าง ๆ ออกไปจากระบบหายใจ การเปิดหน้าต่าง ประตู หรือทำช่องระบายให้กับบ้าน ยกตัวอย่างเช่น ห้องน้ำที่มักถูกสร้างแบบระบบปิด เราสามารถติดตั้งพัดลมระบายอากาศ หรือหน้าต่างให้มีการถ่ายเทความร้อนและชื้น การสร้างบรรยากาศของบ้านให้มีระบบหายใจและอากาศที่ดีหมุนเวียนเปลี่ยนผ่าน เพียงเท่านี้ ฤดูร้อนที่แสนอันตรายต่อบ้านและเป็นเหตุปัจจัยแห่งความเสื่อมโทรมก็จะส่งผลกระทบต่อบ้านที่อยู่อาศัยได้น้อยลง และปัจจุบันเองก็มีวัสดุต่าง ๆ ที่ช่วยคลายความร้อนให้กับบ้านรวมถึงป้องกันความชื้นให้เลือกใช้ ถือเป็นอีกวิธีหนึ่งในการช่วยปกป้องบ้านให้ปลอดภัยจากฤดูร้อนที่ยาวนานของไทยได้เช่นกัน