“ฤๅษีตาวัว” ฤๅษีประจำสายแพทย์ สายมูตัวแทนของนักเล่นแปรธาตุ

“ฤๅษีตาวัว” ฤๅษีประจำสายแพทย์ สายมูตัวแทนของนักเล่นแปรธาตุ เรื่องทั่วไป เกร็ดความรู้ทั่วไป เกร็ดความรู้รอบตัว สาระน่าสนใจ ฤๅษีตาวัว

               นอกจากพระฤๅษีตาไฟที่นิยมมากในบรรดาสายบู๊อย่างทหาร และตำรวจนั้น อีกพระฤๅษีที่ใครๆ ต่างก็บูชากันมากในบรรดาการแพทย์ และบรรดานักเล่นแปรธาตุอย่างกลุ่มคนที่ทำงานในห้องแล็บ เช่น เทคนิคการแพทย์ นักเคมี นักวิจัย และผู้ที่เกี่ยวข้องด้านการทำงานเคมี จะนิยมบูชาพระฤๅษีตนนี้มาก โดยมีชื่อว่า “พระฤๅษีตาวัว” โดยมีหลายเรื่องราวมากที่เล่าว่ามีตาที่เหมือนตาวัวบ้าง หน้าเหมือนวัวบ้าง แต่ก็เต็มไปด้วยบุญญาธิการสูง ซึ่งเทียบกับพระฤๅษีตาไฟ กับพระฤๅษีนารอท และที่สำคัญเรื่องของพระฤๅษีตาวัวติดปากคนไทยมานานหลายชั่วอายุคนอีกด้วย – เหตุใดบ้างที่ “ฤๅษีตาวัว” ส่งผลแง่สุขภาพ เหตุที่มีพุทธคุณเช่นนี้ จะมาอธิบายเรื่องราวของพระฤๅษีตาวัวว่า แต่เดิมนั้นท่านเป็นพระสงฆ์ที่ตาบอดสนิททั้งสองข้าง ด้วยความที่เป็นนักเล่นแปรธาตุ หรือสนใจในการทดลองเชิงเคมีในสมัยนั้น ท่านสามารถทำให้ปรอทที่เป็นของเหลวกลายเป็นของแข็งได้ ยังไม่ทันใช้เลย ก็พลาดตกถานเสีย (ถานในที่นี้หมายถึงสุขาของวัด) ด้วยความที่ตาท่านมองไม่เห็น ทำให้ท่านไม่กล้าบอกใครว่าตนซุ่มซ่าม วันหนึ่งลูกศิษย์ของท่านไปเห็นแสงเรืองๆ อยู่ใต้ถาน ก็กลับมาเล่าให้ท่านฟัง ท่านดีใจมากจึงบอกว่า ถ้าแสงเรืองตรงไหนให้จับตรงนั้น จะเลอะเทอะยังไงก็ช่างมัน ศิษย์ทำตามที่ท่านแนะนำ ด้วยความที่ถานนั้นเต็มไปด้วยสิ่งปฏิกูลมากมาย ทำให้ศิษย์กลั้นใจหยิบออกมา จากนั้นท่านก็นำเอาปรอทคืนกลับมาได้ แล้วล้างทำความสะอาด แล้วก็เอาไปแช่ในโถน้ำผึ้งที่ฉันประจำ ไม่เอาติดตัวไปไหนอีก กลัวว่าจะหายซ้ำสองอีก                วันหนึ่งท่านรำพึงถึงสังขาร ว่าท่านจะอยู่ในสภาพแบบนี้อีกนานเท่าใด มีของดีของวิเศษน่าจะลองทำดูบ้างก็ไม่เสียหาย จึงให้ศิษย์หาศพของมนุษย์เพื่อเอาดวงตารักษาตน แต่ลูกศิษย์หาศพเพื่อเอาดวงตามารักษาไม่ได้ […]