วิ่งแล้วเจ็บเข่าด้านใน

วิ่งแล้วเจ็บเข่าด้านใน

อาการวิ่งแล้วเจ็บเข่าด้านใน เป็นปัญหาที่อยู่กับนักวิ่งมาโดยตลอด ไม่ว่าจะหน้าใหม่และหน้าเก่าส่วนมากจะพบได้มากกับนักวิ่งมือใหม่สาเหตุของการบาดเจ็บหัวเข่าด้านใน มีอยู่หลายสาเหตุ จะขอยกตัวอย่างมา 2 ประเด็น ภาวะเท้าแบน และ ภาวะสะโพกไม่แข็งแรง เท้าเป็นจุดแรกที่สัมผัสพื้นเวลาที่เราวิ่ง หลายคนมีปัญหาเท้าแบน หมายถึงความเป็นอุ้งเท้าของเรามีน้อย เมื่อยืนหรือลงน้ำหนักแล้วจะแบนหายไปหมดเวลาที่คนเราเท้าแบนจะส่งผลตามมาอีก เท้าแบน กระดูกส่วนต่างๆ เคลื่อนบิดตามหัวเข่าบิดเข้าด้านในทำให้เกิดแรงเฉือนที่ข้อเข่า ข้อเข่าทำหน้าที่เป็นบานพับพบขึ้นและลง หากมีแรงอื่นมากระทำเช่น แรงบิดหมุน จะทำให้เสียดสี และ เอ็นด้านในเสียหาย แก้โดยการฝึกความแข็งแรงกล้ามเนื้อ ฝ่าเท้าและข้อเท้าเพิ่มเติม ทำให้เท้ากลับมามีอุ้งเท้ามากขึ้นป้องกันภาวะอุ้งเท้าล้มหรือเท้าแบนและการฝึกกล้ามเนื้อข้อเท้า เสริมสร้างความมั่นคงให้กับข้อเท้า กล้ามเนื้อสะโพกหรือกล้ามเนื้อก้น เป็นกล้ามเนื้อที่คอยสร้างความมั่นคง ให้กับกระดูกขาเราและข้อต่อสะโพกในยามที่เราเคลื่อนที่ไปมา โดยเฉพาะวิ่ง กล้ามเนื้อต้องแข็งแรงและทำงานได้ดี เวลาวิ่งเรามีแรงกระแทก 2 – 3 เท่า ของน้ำหนักตัวเป็นกิโลกรัม รวมๆแล้วไม่ต่ำกว่า 100 กิโลกรัมเราใช้ขาข้างเดียวในการรับแรงกระแทก กล้ามเนื้อก้นต้องซัพพอร์ตแรงกระแทก หากแข็งแรงไม่มากพอ เวลาวิ่งจะเกิดภาวะสะโพกเอียงไปมา ทำให้ข้อเข่าเกิดแรงเฉือนและบิดเข้าด้านในตามมาและพิเศษสุดๆเมื่อกล้ามเนื้อสะโพกไม่แข็งแรงภาวะเจ็บข้างเข่าหรือ IT Band Syndrome จะเริ่มค่อยๆตามมาจากภาวะสะโพกไม่แข็งแรงยังไม่นับรวมไปถึงทักษะการวิ่งที่มีคุณภาพ กล้ามเนื้อแกนลำตัวที่แข็งแรงคอยรักษาความมั่นคง ทั่วทั้งร่างกายโดยเฉพาะแนวสะโพกในการวิ่ง สุดท้ายแล้วก็พบว่าปัญหาการบาดเจ็บมาจากปัญหาคุณภาพของกล้ามเนื้อ #วิ่ง #ออกกำลังกาย #ดูแลสุขภาพ […]

โทษของการขาดการออกกําลังกายในวัยหนุ่มสาว คนวัยหนุ่มสาวที่ขาดการออกกําลังกาย

โทษของการขาดการออกกําลังกายในวัยหนุ่มสาว คนวัยหนุ่มสาวที่ขาดการออกกําลังกาย

1 ผู้ที่ขาดการออกกําลังกายมาตั้งแต่เด็ก เนื่องจากมีผลเสียของการขาดการ ออกกําลังกายในวัยเด็ก โดยเฉพาะในด้านรูปร่าง ทรวดทรง และสมรรถภาพทางกาย ผลเสียเหล่านี้ ยิ่งมีเพิ่มมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน จะเริ่มเกิดการเสื่อมในด้านรูปร่างและหน้าที่การทํางานของอวัยวะภายในหลายระบบจนสามารถแสดงอาการคล้ายเป็นไรคที่มีพยาธิสภาพได้ เช่น อาการ หอบเหนื่อย ใจสัน เมื่อใช้แรงกายเพียงเล็กน้อย คล้ายกับผู้เป็นโรคหัวใจหรือโรคปอด 2 ผู้ที่เคยออกกําลังกายเป็นประจํามาก่อน แต่มาหยุดในวัยหนุ่มสาว ไม่มีผลเสีย ของการขาดการออกกําลังกายในวัยเด็กการเจริญเติบโตไม่มีข้อขัดข้องมาก่อน แต่รูปร่าง ทรวดทรงอาจจะเปลี่ยนแปลงไปได้มาก ถ้าหากขาดการออกกําลังกายในวัยนี้ เนื่องจากการมี กล้ามเนื้อน้อยลงและการสะสมไขมันมากขึ้น (ผู้ที่ออกกําลังกายเป็นประจําจะรับประทานอาหาร มากกว่าผู้ที่ไม่ได้ออกกําลังกาย แต่เมื่อหยุดออกกําลังกายเป็นประจําแล้วยังคงรับประทานอาหาร เท่าเดิม จะทําให้มีอาหารส่วนเกินที่สะสมไว้ในสภาพไขมัน) ในด้านสมรรถภาพทางกาย ด้านต่าง ๆ จะลดต่ําลงอย่างรวดเร็ว แต่ได้เปรียบกว่าพวกที่ 1 ในการที่จะสามารถฝึกให้สมรรถภาพกลับคืนได้ในเวลาอันสั้น การมีสมรรถภาพทางกายต่ํา ประกอบกับการมีสุขภาพไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร จะมี ผลเสียทางด้านสังคม จิตใจ และบุคลิกภาพทําให้กระทบกระเทือนต่อการศึกษา หรือการประกอบอาชีพ #วิ่ง #ออกกำลังกาย #ดูแลสุขภาพ #หุ่นดี #เติมเงินขั้นต่ำ200บาท

มารู้จักรองเท้า5นิ้วกันเถอะ

มารู้จักรองเท้า5นิ้วกันเถอะ

รองเท้าแบบนีมันมีไว้ทำไรอะ?คำถามนี้คงเป็นคำถามที่ใครหลายๆคนมักถามอยู่เสมอ ที่พบเห็นได้ตามจุดซ้อมวิ่งหรืองานวิ่งต่างๆVibram Fivefinger หรือรองเท้าห้านิ้ว หลายๆคนอาจจะเคยได้ยินมาบ้าง ลักษณะของรองเท้าแบบนี้คือ มีรูปร่างเหมือนเท้าคนเมื่อใส่เข้าไปแล้วรู้สึกเสมือนนว่าเราไม่ได้ใส่รองเท้า บวกกับลักษณะพิเศษคือพื้นรองเท้าจะแบนมากหรือไม่มีโฟมรองรับแรงกระแทกใดใดเลย (เหมือนกับผ้าบางๆมาปิดไว้เฉยๆแค่นั้น) หรืออย่างยี่ห้อVivoเองก็ตาม ลองเสิร์ซดูกันได้เลยครับใส่วิ่งมันจะไม่เจ็บเอาหรอ การวิ่งมันมีแรงกระแทกจากการลงน้ำหนักเท้านะ ? รองเท้าทุกวันนี้ที่หลายๆยี่ห้อที่ผลิตออกมานั้น ก็มักจะมีพื้นที่หนานุ่มเด้งรับอยู่เสมอ ต่อให้เราลงน้ำหนักแรงขนาดไหนก็จะรู้สึกว่าแรงกระแทกน้อย เนื่องจากมีพื้นที่หนานุ่มมารองรับเอาไว้ จึงไม่รู้สึกถึงแรงกระแทก ดังนั้น..ก็ทำให้เกิดการเรียนรู้ ในการลงน้ำหนักที่เท้าอย่างถูกต้องน้อยลง เพราะต่อให้วางเท้ายังไงก็แทบจะไม่เจ็บ ในทางกลับกันการที่เราใส่รองเท้าพื้นที่บางหรือการวิ่งเท้าเปล่านั้น ก็เท่ากับว่าเราไม่มีแผ่นมารองรับแรงกระแทกใดใด ฉะนั้นแรงกระแทกเราจึงรับเต็มๆ จากการวางเท้าฉะนั้นมันจะเป็นตัวหนึ่งสามารถฟ้องเราได้ว่าการวิ่งของเรานั้นแรงเกิดแรงกระแทกกลับไปสู่ร่างกายนั้นมากน้อยเพียงใดใครที่ลงน้ำหนักเท้าแรงก็จะเจ็บหรือใครเอาส้นกระแทกลงพื้นตลอดเวลาก็จะรู้สึกเจ็บเพราะว่าไม่มีตัวรับแรงกระแทกแล้ว การวิ่งที่ดีต้องเกิดจากการเด้งของร่างกายโดยเกิดใช้กลไกลของกล้ามเนื้อน่อง น่องเปรียบเสมือนโชคอัพของร่างกายที่ต้องรองรับแรงกระแทกตามธรรมชาติ จากการวางเท้าในขณะวิ่งลองนึกถึงการกระโดดเชือกของนักมวยดู ถ้าเรารู้จักใช้กล้ามเนื้อน่องในการเด้งรับแรงกระแทกในการวิ่งก็เสมือนว่าเรามีพื้นรองเท้าดีๆในการวิ่งแน่นอนว่าคงไม่ใช่ทุกคนที่จะทำเช่นนี้ได้ การวิ่งยังใช้กล้ามเนื้อมัดอื่นๆ อีกมากมายไม่ใช่เพียงแค่กล้ามเนื้อน่องเท่านั้น โดยเฉพาะกล้ามเนื้อฝ่าเท้าที่ทำหน้าที่รองรับแรงกระแทก คนที่วิ่งเท้าเปล่าหรือรองเท้าแบบนี้กล้ามเนื้อจะต้องแข็งแรงและมีความยืดหยุ่นสูง เราตัดความเป็นโฟมนุ่มๆ ของรองเท้าออกไป ก็จะเหลือแต่ความเป็นกล้ามเนื้อของเราในรับและส่งแรงไปข้างหน้าหากกล้ามเนื้อเราขาดความแข็งแรง การรับแรงกระแทกก็จะมีโอกาสสร้างความบาดเจ็บต่อกล้ามเนื้อและข้อต่อได้ สูงหากท่าทางการวิ่งยังไม่ถูกต้องและกล้ามเนื้อยังไม่มีความแข็งแรงแนวทางในการปรับใช้ สำหรับมือใหม่ที่อยากจะลองฝึกวิ่งโดยเท้าเปล่าหรือการใส่รองเท้าลักษณะแบนๆดังที่ยกตัวอย่าง ก็สามารถเริ่มได้จากการวิ่งเท้าเปล่าบนสนามหญ้าช้าๆเรียนรู้และรับรู้การถ่ายโอนน้ำหนักตัวและการลงน้ำหนักที่หน้าเท้าอย่างถูกต้อง ค่อยๆ เริ่มทีละนิด วันละ 1 – 2กิโลเมตรก่อนให้เกิดความรู้สึกชิน หากใครไม่เคยใส่รองเท้าเช่นนี้วิ่งมาก่อน ก็อย่าเพิ่งใจร้อนให้ซื้อมาลองใส่เดินในชีวิตประจำวันก่อน เดินเที่ยว เดินเล่นในที่ทำงานก็เก๋ไก๋ดี เป็นแนวคิดที่ผมแนะนำขึ้นมาทุกคนลองไปปรับใช้กันตามความเหมาะสมนะครับ #วิ่ง #ออกกำลังกาย #ดูแลสุขภาพ #หุ่นดี […]